การสร้างอะเรย์ของสตริง สามารถทำได้ทั้งแบบที่กำหนดตัวแปรและแบบที่ให้ค่าเริ่มต้น จะสร้างเมื่อสตริงมีจำนวนมาก เพื่อช่วยให้เขียนโปรแกรมได้สะดวกขึ้น
ARAY ของสตริงที่ยาวไม่เท่ากัน ทำได้เฉพาะเมื่อมีการกำหนดค่าเริ่มต้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น

ARAY ของสตริงที่ยาวเท่ากัน ถือว่าเป็นอะเรย์ที่แท้จริง สามารถกำหนดได้ทั้งเมื่อกำหนดตัวแปรและเมื่อมีการให้ค่าเริ่มต้น โดยดำเนินการแบบกำหนดอะเรย์ 2 มิติ ตัวอย่างเช่น

ความแตกต่างของอะเรย์ของสตรงที่ยาวเท่ากันและไม่เท่ากัน คือ อะเรย์ของสตริงที่ยาวไม่เท่ากันจะมีลักษณะ ดังภาพด้านล่าง


- ฟังก์ชัน strlen(str) ใช้หาความยาว
- ฟังก์ชัน strcpy(str1, str2) ใช้คัดลอกข้อมูล จากตัวที่ 2 ไปให้ตัวที่ 1
- ฟังก์ชัน strcat(str1, str2) ใช้เชื่อมต่อข้อความ เช่น ตัวแปร 1 เก็บ ชื่อ ตัวแปร 2 เก็บ นามสกุล แล้วนำตัวแปรทั้ง2 มาต่อกัน
- ฟังก์ชัน stecmp(str1, str2) ใช้ปรียบเทียบข้อความ 2 ข้อความว่ามีค่าเท่ากันหรือไม่ ยึดตามหลักพจนานุกรม
LINKED LIST
ลิงค์ลิสต์ เป็นวิธีการเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องของ element ต่างๆ โดยมีพอยน์เตอร์เป็นตัวเชื่อมต่อ ในแต่ละ element จะเรียกว่า node ซึ่งแต่ละโนดประกอบด้วย data (เก็บข้อมูลของอิลิเม้นท์) และ link field (เก็บตำแหน่งของโนดต่อไปในลิสต์) ดังภาพ
* data อาจเป็นรายการเดียว หรือเป็นเรคคอร์ดก็ได้

* data อาจเป็นรายการเดียว หรือเป็นเรคคอร์ดก็ได้
โครงสร้างข้อมูลแบบลิงค์ลิสต์
1. Head Structure ประกอบด้วย Count, Pos และ head แสดงได้ดังภาพ


กระบวนงานและฟังก์ชันที่ใช้ดำเนินงานพื้นฐาน
1. Create List มีหน้าที่สร้างลิสต์ว่าง ผลลัพธ์ที่ได้คือ ลิสต์ว่าง และ count จะมีค่าป็น 0
2. Insert Node มีหน้าที่เพิ่มข้อมูลลงไปในลิสต์ในตำแหน่งที่ต้องการ มีข้อมูลนำเข้า ได้แก่ ลิสต์ ข้อมูล และตำแหน่ง ส่วนผลลัพธ์ที่ได้คือ ลิสต์ที่มีการเปลี่ยนแปลง และ count จะมีค่าเป็น 1 หรือ 2.....n ตามจำนวนของการ insert
3. Delete Node มีหน้าที่ลบสมาชิกในลิสต์บริเวณตำแหน่งที่ต้องการ มีข้อมูลนำเข้า ได้แก่ ข้อมูลและตำแหน่ง ส่วนผลลัพธ์ที่ได้คือ ลิสต์ที่มีการเปลี่ยนแปลง และ count จะลดจำนวนจากเดิมลงเรื่อย ตามจำนวนลิสต์ที่ลบไป
4. Search list มีหน้าที่ค้นหาข้อมูลในลิสต์ที่ต้องการข้อมูลนำเข้าลิสต์ ผลลัพธ์ที่ได้ จะเป็นค่าจริงถ้าพบข้อมูล และจะเป็นค่าเท็จถ้าไม่พบข้อมูล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น